Gen Y หรือ กลุ่มคนรุ่นใหม่เกิดในช่วง ค.ศ.1981 – 2000 ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มักจะใช้ชีวิตที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง เต็มที่กับสิ่งที่ชอบแบบสุดขั้ว อาจเรียกได้ว่าเป็นสายเปย์ขนานแท้ อยากกิน อยากช้อป อยากเที่ยว ทุ่มให้ไม่มีกั๊ก ไม่ห่วงว่าวันพรุ่งนี้จะมีเงินใช้หรือเปล่า พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้คน Gen Y เป็นหนี้กันเร็วมาก ทั้งบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ยาวเป็นหางว่าว ไม่รู้จะใช้หนี้ยังไงไหว ดังนั้น วันนี้ MoneyGuru.co.th จึงจะมาแนะนำเหล่า Gen Y เกี่ยวกับ วิธีการออมเงิน แบบง่าย ๆ กันค่ะ

48% ของกลุ่มคน Gen Y ไม่มีเงินออม 

สถาบันวิจัยประชากรและสังคมมหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีการสำรวจความสุขของคนทำงานในปี 2558 พบว่า 50% ของคนทำงานกลุ่ม Gen Y ไม่มีเงินออม, 48% ผ่อนชำระหนี้สินไม่ตรงเวลา, 45% รู้สึกว่ารายจ่ายมีมากกว่ารายรับ และ 45.6% ยังมีความรู้สึกว่าการผ่อนชำระหนี้สิน เป็นเรื่องที่สร้างภาระหนักมากให้แก่ตนเอง ส่วนข้อมูลเครดิตแห่งชาติพบว่า Gen Y เป็นกลุ่มที่มีการขอสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุด ในทุกประเภททั้งบ้าน รถยนต์ และบัตรเครดิต

ทั้งนี้ คุณ ชนาธิป จริยาวิโรจน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายส่งเสริมความรู้ทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า คนรุ่นใหม่เป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพ แต่อาจจะใช้เงินมากเกินไปและใช้เงินมากกว่า 80% ของฐานเงินเดือนที่ได้รับ ซึ่งถ้าคนรุ่นใหม่มีพฤติกรรมทางการเงินดี ก็ย่อมจะส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มคน Gen Y เป็นกลุ่มคนที่มีสุขภาพทางการเงินไม่ค่อยดีนัก จนคนเจนวายถูกขนานนามว่า ใช้เงินไม่เป็น ติดของหรู แล้วสุดท้ายลงเอยด้วยการเป็นหนี้ แถมยังไม่มีเงินเก็บอีกต่างหาก!!

คน Gen Y ก็อยากเก็บเงินได้นะ

แต่ถ้าหากไปถามคน Gen Y มักได้คำตอบว่า ไม่ใช่ไม่อยากมีเงินเก็บเงินออม แต่เห็นคนอื่นเก็บได้ก็พลอยอิจฉาเล็ก ๆ ว่าอยากทำได้บ้าง แต่อุปสรรคสิ่งล่อตาล่อใจมันเยอะเหลือเกิน บ้างก็ว่าเกิดมาทั้งทีขอใช้ชีวิตให้คุ้มเสียหน่อย หรือระดับปฏิบัติก็บอกว่าลองมาสารพัดวิธี ที่แชร์ตามโลกออนไลน์ทั้งเปิดบัญชีฝากประจำ เก็บแบงก์ 50 บาท แบ่งเงินใช้ใส่ซองก็แล้ว แต่ก็ดูจะไม่ได้ผลสักเท่าไหร่

ทำไม วิธีการออมเงิน เป็นเรื่องอยากขนาดนี้?

เรื่องยากเหล่านี้จะหมดไป เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท. ที่เห็นความสำคัญของคนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังหลักของชาติในอนาคต ว่าควรจะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ เพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในอนาคต และกระตุ้นให้เริ่มฝึกวินัยในการจัดการเงินตั้งแต่วัยเริ่มทำงาน โดยได้ร่วมกับ AsiaDevelopmentBank คิดแคมเปญออนไลน์เก๋ ๆ คูล ๆ ที่เข้ากับคนรุ่นใหม่อย่าง #effortlesssaving : #เปย์ไม่เจ็บเก็บไม่จน ขึ้นมา

ทั้งนี้ แคมเปญ #effortlesssaving : #เปย์ไม่เจ็บเก็บไม่จน เสนอเทคนิคในการเก็บเงิบแบบง่าย ๆ 3 แบบคือ

1. เก็บเงินทอน คือ ทุกครั้งที่จ่าย ให้เก็บเงินทอนที่รับกลับมา
2. เก็บเลขท้าย คือ เก็บตามเลขท้ายของจำนวนที่จ่ายไป เช่น ใช้เงิน 599 บาม ต้องเก็บ 99 บาท
3. เก็บส่วนลด คือ เก็บเงินที่ได้จากส่วนลด เช่น ซื้อของ 1,000 บาท จากราคาปกติ 1,200 บาท ต้องเก็บเงิน 200 บาท

แต่เดี๋ยวก่อนถ้าเสนอแต่วิธีการออมแค่นี้มันจะไปสนุกอะไรล่ะคะ ทางแคมเปญยังมีการท้าทายว่า คนเจนวายจะสามารถเก็บเงินได้ไหม ด้วยการชาเลนจ์เก็บเงินในระยะเวลา 21 วัน เพราะว่ามีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า การทำอะไรก็แล้วแต่ติดต่อกันในระยะเวลา 21 วันแล้ว จะส่งผลให้พฤติกรรมเหล่านั้นกลายเป็นความเคยชินนั่นเองค่ะ

วิธีการร่วมเล่นแคมเปญ #effortlesssaving : #เปย์ไม่เจ็บเก็บไม่จน

สำหรับวิธีการร่วมเล่นแคมเปญนี้ ง่ายแสนจะง่ายแถมยังสนุกอีกด้วย คนรุ่นใหม่ทำได้อย่างแน่นอน โดยให้เข้าไปในเว็บไซต์ effortlesssaving แล้วอัพโหลดภาพกิจกรรมที่ได้ไปทำมาอย่างเช่น ดูหนัง เที่ยวต่างจังหวัด ซื้อของตามห้างสรรพสินค้า หรือจะรับประทานอาหารกับเพื่อนฝูง แล้วเลือกวิธีการออมว่าจะออมแบบไหน ตามที่บอกไปว่ามี 3 แบบด้านบน จากนั้นก็ระบุจำนวนเงินลงไป ส่วนช่องสีนั้น ก็เป็นการเพิ่มกิมมิกเก๋ที่ตัวอักษร ทำทุกอย่างเสร็จก็กดปุ่ม create แล้วกดเซฟรูปกันได้เลย เท่านี้ก็ได้ภาพสวย ๆ พร้อมบอกว่าวันนี้ได้เก็บเงินออมเรียบร้อยแล้วค่ะ

ชาว Gen Y ที่ชอบโพสต์ ไลก์ แชร์ สามารถนำภาพนี้แชร์ไปยังเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรืออินสตาแกรม พร้อมติดแฮชแทก #เปย์ไม่เจ็บเก็บไม่จน #effortlesssaving โชว์ไลฟ์สไตล์ให้ทั่วโลกได้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ (GenY) ใช้เงิน และก็เก็บเงินเป็นเหมือนกันนะ!! และหากท่านใดอยากจะติดตามบทความและข่าวสารเกี่ยวกับรถยนต์ การเงิน สินเชื่อ บัตรเครดิต และประกันรถยนต์ ก็สามารถกด Subscribe เพื่อรับสาระความรู้แบบนี้จาก MoneyGuru.co.th ได้เลยค่ะ เราจะส่งตรงถึงอีเมลของคุณทุก ๆ สัปดาห์