สมัยนี้ราคาน้ำมันขึ้นเอา ๆ ลดลงมาทีก็แค่ไม่กี่สตางค์ ประหยัดได้ด้วยวิธีไหนก็ต้องทำ บางคนเลือกที่จะติดแก็ส LPG หรือติด NGV ซึ่งก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะ แต่กับบางคนที่ยังคงเลือกใช้น้ำมันจะทำอย่างไรให้ประหยัดดีล่ะ คราวนี้ MoneyGuru.co.th จึงมีวิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมันมาฝากกันค่ะ

วางแผนการเดินทางช่วย ประหยัดน้ำมัน

คุณรู้ไหม? ว่าการขับรถหลังจากที่รถจอดมาแล้วเป็นเวลานานจนเครื่องยนต์เย็น เช่น จอดรถค้างคืน จะใช้พลังงานมากกว่าปกติในช่วง 10 กิโลเมตรแรก แทนที่จะขับรถไปซื้อกาแฟและหนังสือพิมพ์ปากซอยในตอนเช้า และขับรถไปซุปเปอร์มาร์เก็ตในตอนเย็น จะประหยัดน้ำมันมากกว่า หากคุณวางแผนการเดินทางโดยการรวบทริปยิบย่อยแบบที่กล่าวข้างต้น ให้กลายเป็นทริปยาวทีเดียว จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันมากขึ้น

หลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน

พลังงานน้ำมันนั้นจะสิ้นเปลืองอย่างมหาศาล หากคุณขับรถในชั่วโมงเร่งด่วนที่มีรถติดยาวหลายกิโลเมตร ทุก ๆ ครั้งที่รถเริ่มขยับอีกครั้ง ในช่วงเกียร์ 1 และ 2 เครื่องยนต์จะใช้เชื้อเพลิงมหาศาลเพื่อเร่งให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า และสูญเสียน้ำมันไปเปล่า ๆ ขณะที่รถติดไม่ได้ขยับเขยื่อน เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่แพงมากทีเดียว ทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้การเดินทางของคุณถูกลง คือหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน แต่ถ้าหากว่าคุณจำเป็นต้องเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนบ่อย ๆ การเลือกรถถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะรถยนต์ hybrid จะสิ้นเปลืองพลังงานน้อยกว่ารถที่ใช้น้ำมันเป็นอย่างมาก

บทความอื่นที่น่าสนใจ: บทบาทของสมาร์ทโฟนยุคใหม่ ที่ช่วยให้การขับรถง่ายขึ้น

ปิดหน้าต่างหรือ sun roof/moon roof

การเปิดหน้าต่างหรือ sun roof/moon roof คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ หากคุณขับในเมืองที่ไม่ใช้ความเร็วสูงมากนัก แต่ถ้าคุณขับรถไปต่างจังหวัดในเส้นที่ต้องใช้ความเร็วสูง อย่างเช่น มอเตอร์เวย์ การเปิดหน้าต่างหรือ sun roof/moon roof อาจจะทำให้รถใช้พลังงานมากกว่าปกติหลายเท่า โดยปกติผู้ออกแบบรถยนต์จะเรียกสิ่งนี้ว่า aerodynamic คือการออกแบบรถให้ถูกแรงลมดึงหรือแรงต้าน ขณะขับเคลื่อนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ การเปิดหน้าต่างหรือ sun roof/moon roof จะเพิ่มแรงดึงหรือแรงต้านให้กับรถ และทำให้รถต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อที่จะเคลื่อนตัวไปข้างหน้า และทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้นไปด้วยนั่นเอง

นำโครงวางของบนหลังคารถออก

หัวข้อนี้มีหลักการเดียวกันกับหัวข้อที่แล้ว คือเรื่องแรงดึงหรือแรงต้าน โครงวางของบนหลังคาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถเกิดแรงต้านลมเพิ่มขึ้น ทำให้รถทำงานหนักขึ้นเพื่อเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ยิ่งใช้ความเร็วสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งเกิดแรงต้านมากขึ้นเท่านั้น และแน่นอน สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้นไปด้วยนั่นเอง

บทความอื่นที่น่าสนใจ: 4 วิธีจัดการเบรกแตก ขณะที่คุณกำลังขับรถ

อย่าขนของที่ไม่จำเป็น

รถก็เหมือนกับคน ยิ่งมีน้ำหนักเยอะ ก็จะยิ่งใช้พลังงานเยอะในการเคลื่อนที่ ดังนั้น การขนของเกินจำเป็นไว้บนรถขณะเดินทาง ก็จะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้นเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้ ควรเคลียร์รถทุก ๆ วัน เพื่อหลีกเลี่ยงการบรรทุกของที่ไม่จำเป็น นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมัน ยังช่วยให้รถคุณดูสะอาดเรียบร้อยอยู่ตลอดด้วย

ลดการเร่งเครื่องบ่อย ๆ

มันอาจจะสะใจเวลาเร่งเครื่องแล้วรถคู่ใจของคุณพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่คุณรู้ไหมว่าทุกครั้งที่คุณเร่งเครื่องกระทันหัน คุณจะสิ้นเปลืองพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปตามคันเร่งที่คุณเหยียบ ยิ่งเหยียบลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งสิ้นเปลืองมากเท่านั้น ดังนั้น ขับรถให้มีความ smooth ลื่นไหลพอดี จะเป็นการประหยัดเงินและพลังงานได้มากกว่า

บทความอื่นที่น่าสนใจ: 7 วิธีขับรถขึ้น-ลงเขาอย่างเซียน

อย่าขับรถลากเกียร์

ในกรณีของรถเกียร์ธรรมดา การลากเกียร์นาน ๆ ไม่ยอมเปลี่ยนเกียร์ เพราะขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์บ่อย ๆ (เป็นที่รู้กันว่ารถเกียร์ธรรมดา จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์ไปเรื่อย ๆ ตามสภาพการขับรภ) นอกจากจะทำให้เกียร์ของคุณเสื่อมสภาพเร็วแล้ว ยังจะทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับผู้ที่ขับรถเกียร์อัตโนมัติ เพราะเกียร์จะรู้หน้าที่ของมัน และเปลี่ยนเกียร์ให้มีความเหมาะสมเองอยู่แล้ว

อย่าขับรถเร็วจนเกินไป

ข้อนี้อาจจะไม่มีผลต่อคนเมือง เพราะบนท้องถนนในเมืองมีรถเยอะ และมีแยกไฟแดงอยู่ทั่วไปหมด คุณจึงไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้เร็วเท่าใดนัก แต่หากคุณต้องขับรถทางไกล การขับรถบนความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด จะทำให้รถใช้พลังงานในปริมาณที่เหมาะสม แถมยังไม่ต้องโดนใบสั่งด้วย เรียกว่าได้สองต่อ ประหยัดทั้งค่าน้ำมันและค่าใบสั่งเลยค่ะ

เช็คความดันลมยางเป็นประจำ

ยิ่งความดันลมยางมีน้อยเท่าไหร่ รถก็จะยิ่งใช้พลังงานในการเคลื่อนที่มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น การหมั่นตรวจเช็คลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินค่าน้ำมันมากขึ้นอีกทางหนึ่งนั่นเอง

บทความอื่นที่น่าสนใจ: ราคาน้ำมันกับเบี้ยประกันรถยนต์ สัมพันธ์กันอย่างไร

และนี่คือ 9 วิธีประหยัดน้ำมันที่เรานำมาฝากคุณผู้อ่านกันในวันนี้นะคะ หากคุณผู้อ่านท่านใดต้องการอ่านสาระความรู้ดี ๆ แบบนี้เพิ่มเติม สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ บล็อก หรือกด subscribe จดหมายข่าวของเราได้เลยค่ะ MoneyGuru.co.th จะส่งบทความคูล ๆ ไปให้คุณผู้อ่านได้อ่านถึงอีเมลทุก ๆ สัปดาห์เลยคะ