โดย บัตรกดเงินสด,บัตรเครดิต,สินเชื่อส่วนบุคคล,เคล็ดลับการเงิน"
, ในหมวดหมู่ "April 2, 2021
สำหรับท่านไหนที่เวลานี้กำลังเป็นหนี้ตั้งแต่หนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด รวมไปถึง หนี้รถ-บ้าน-ค้ำประกัน ที่มาจากวิกฤติโควิด ทำให้ท่านผู้อ่านจำนวนมากต้องดิ้นรนเพื่อหารายได้ให้เพียงพอจุนเจือครอบครัว ดังนั้นวันนี้ เราจะมาแนะนำ วิธีแก้ปัญหาจ่ายหนี้ไม่ไหว จากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีรายละเอียดดังนี้…
เวลานี้หลายๆท่านผู้อ่านที่ครอบครัวต้องเผชิญกับแรงกดดันจากภาระหนี้สิน ในเวลานี้ทำให้อาจจะจำเป็นต้องทำการ หยิบยืมญาติสนิท มิตรสหาย เพื่อรักษาสภาพคล่องชั่วคราว แต่เมื่อสถานการณ์ด้านรายได้ไม่ดีขึ้น สุดท้ายก็ไม่สามารถใช้คืนได้ จนเป็นปัญหาด้านความสัมพันธ์จนเข้าหน้ากันไม่ติด เกิดแรงกดดันทางสังคม จนเกิดภาวะเครียด ได้ไหนที่สุด หรือหากเลวร้ายอาจถึงขั้นพยายามหนีหนี้ ทำตัวติดต่อไม่ได้ จนเกิดภาวะดอกเบี้ยทบต้นไปเรื่อยๆ หนี้สินพอกพูน และนำมาสู่การยึดทรัพย์ ทำให้สุดท้ายท่านจำเป็นต้องไปพึ่งพิงหนี้นอกระบบทั้งที่ดอกเบี้ยสูงมาก และสุดท้ายต้องเข้าสู่วงจรหนี้ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะแค่ดอกเบี้ย 5% ต่อเดือน (ซึ่งส่วนใหญ่มากกว่านั้น) ในเวลาปีเศษ ดอกเบี้ยก็เท่ากับต้นแล้ว นอกจากนี้ บางคนยังเจอเจ้าหนี้คุกคามจนดำเนินชีวิตปกติไม่ได้ในที่สุด….
คำถามสำคัญคือ เมื่อจ่ายหนี้ไม่ไหว เราจะต้องทำทำอย่างไรจึงจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน จากประสบการณ์ที่ทำงานร่วมงานกับสถาบันการเงินเกือบ 3 ทศวรรษ และเป็นผู้บุกเบิกงานแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนรุ่นแรกของ ธปท. คิดว่า การแก้ปัญหาหนี้สิน ถ้ามุ่งคิดแต่เรื่องหนี้สินอย่างเดียว ส่วนใหญ่จะพบทางตัน จำเป็นต้องพิจารณาตัวแปร 3 ตัวที่เกี่ยวข้องกับหนี้ จึงจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และจัดการปัญหาหนี้ได้ถูกต้อง โดยทั้ง 3 ตัวแปรสำคัญมีดังต่อไปนี้
“การแก้ปัญหาหนี้สิน ถ้ามุ่งคิดแต่เรื่องหนี้สินอย่างเดียว ส่วนใหญ่จะพบทางตัน
จำเป็นต้องพิจารณาตัวแปร 3 ตัวที่เกี่ยวข้องกับหนี้ คือ รายจ่าย รายได้ และหนี้สิน”
ตัวแปรสำคัญี่ 1 รายจ่าย
ตัวแปรสำคัญที่ 2 รายได้
ตัวแปรสำคัญที่ 3 หนี้สิน
สุดท้ายนี้ สิ่งที่อยากจะฝากเป็นกำลังใจกับลูกหนี้ทุกคนที่กำลังเป็นทุกข์กับปัญหาหนี้สินว่า ลูกหนี้ทุกคนไม่ได้ต่อสู้กับปัญหาหนี้สินอย่างเดียวดาย เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามสร้างช่องทางช่วยเหลือลูกหนี้เอง ร่วมมือกับสถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ จนปัจจุบันช่องทางการดูแลลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล (บัตรฯ) เรียกได้ว่า ครบวงจรระดับหนึ่งแล้ว ผ่าน “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรฯ” ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้มีโอกาสเลื่อนชำระหนี้ ลดเพดานดอกเบี้ย ขยายงวดการชำระหนี้ และเร่งปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ และที่สำคัญ เมื่อมีปัญหานี้อย่าคิดคนเดียว การเปิดใจกับครอบครัวให้ร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปด้วยกัน การเข้าไปหาเจ้าหนี้ เพื่อแสดงความตั้งใจและจริงใจ จะช่วยให้ทุกคนมีทางออกร่วมกัน … อย่าลืม! “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน”
สำหรับท่านที่เวลานี้ได้รับผลกระทบในช่วงโควิด-19 ทำให้ท่านมีหนี้เสียอยู่ในตอนนี้ วันนี้ท่านสามารถดูรายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ คลินิกแก้หนี้ ที่ได้ร่วมมือกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถปลดหนี้เสียได้โดยเร็ว
สำหรับกลุ่มผู้มีหนี้ในครั้งนี้ ทางโครงการได้ทำการเปิดขยายเวลาการเป็นหนี้เสีย จากเดิม วันที่ 1 ก.ค. 63 เป็น ก่อนวันที่ 1 ก.พ. 64 จะมีการปรับโครงสร้างหนี้ของลูกค้าที่เป็นหนี้เสียกับเหล่า35 ผู้ให้บริการทางการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทั้ง บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank)
โดยคลินิกแก้หนี้ออกแผนมาให้สูตรที่ 2 ด้วยการขยายมาตรการช่วยเหลือโดยจะให้ดอกเบี้ยต่ำเพียง 4-7% ต่อปี และระยะเวลาการผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปี และยังจะได้รับมาตรการพิเศษ “ยาแรง 2 สูตร” ที่ขยายระยะเวลาออกไปถึงเดือน มิถุนายน 2564 ได้แก่
ท่านที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ให้ท่านไปที่เว็บ www.debtclinicbysam.com หรือคลิกที่รูปภาพด้านบนจากนั้นคลิกที่ปุ่ม สมัครเข้าร่วมโครงการ
ในหน้าจอเริ่มต้นลงทะเบียน โดยเลือกรายการที่ 2 “หยุดชำระเกินกว่า 3 เดือน (90 วัน) ก่อนวันที่ 1 ก.พ. 2564
เมื่อกดแล้วจะปรากฏ คำว่าหยุดชำระเกินกว่า 3 เดือน (90 วัน) ก่อนวันที่ 1 ก.พ. 2564 จากนั้นกดปุ่ม ต่อไป
ในหน้านี้ให้ท่าน ทำการกรอกเลขที่บัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์มือถือ จากนั้นกดไปที่ปุ่มต่อไป
ในหน้าลงทะเบียนให้กรอกข้อมูล ได้แก่ ชื่อ – นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ พร้อมทั้งกรอกรหัสผ่าน เพื่อใช้ในการเข้า สู่ระบบ จากนั้นติ๊กถูกที่ช่อง ข้าพเจ้าได้อ่านเงื่อนไข
เมื่อท่าน ติ๊กถูกที่ช่อง ข้าพเจ้าได้อ่านเงื่อนไข จะปรากฏหน้ารายละเอียดให้ท่านอ่านรายละเอียดให้ครบจากนั้นกดที่ปุ่ม ยอมรับ
จากนั้นกดปุ่มลงทะเบียนได้เลย
เมื่อเข้าสู่หน้าจอบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สถานะภาพสมรส ข้อมูลภรรยาและบุตร ที่อยู่ ปัจจุบันที่ติดต่อได้ ระดับการศึกษา หรือ อาชีพ เป็นต้น โดยเมื่อท่านบันทึกข้อมูลเสร็จสิ้นให้กดปุ่ม “ถัดไป” ที่อยู่ด้านล่าง เพื่อเข้าสู่หน้าจอบันทึกข้อมูลรายได้
เข้าสู่หน้าจอบันทึกข้อมูลรายได้ของท่าน โดยเบื้องต้นระบบจะดึงข้อมูลรายได้ที่ท่านได้บันทึกไว้ ก่อนหน้านี้มาแสดง และ ท่านสามารถกรอกข้อมูลรายได้อื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น เงินโบนัส ค่าล่วงเวลา เมื่อ บันทึกข้อมูลเสร็จสิ้นให้ท่านกดปุ่ม “ถัดไป” ที่อยู่ด้านล่าง เพื่อเข้าสู่หน้าจอบันทึกข้อมูลภาระหนี้
เมื่อท่านเข้าสู่หน้าจอบันทึกข้อมูลภาระหนี้ ในเบื้องต้นระบบจะดึงข้อมูลภาระหนี้ที่จะสมัครเข้าร่วม โครงการที่ท่านได้บันทึกไว้ก่อนหน้านี้มาแสดง และ ท่านสามารถกรอกข้อมูลภาระหนี้อื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ภาระหนี้นอกโครงการ ภาระหนี้ของบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดของบริษัทที่ไม่ใช้สถาบันการเงิน เช่น อิออน ยูเมะพลัส หรือ เฟิร์สชอยส์ เป็นต้น ทั้งนี้เมื่อบันทึกข้อมูลเสร็จสิ้นให้ท่านกดปุ่ม “ถัดไป” ที่อยู่ด้านล่าง เพื่อ เข้าสู่หน้าจอบันทึกข้อมูลรายละเอียดสถานที่ทำงานต่อไป (กรณีที่ต้องการกลับไปดูข้อมูลที่กรอกไว้แล้วของแต่ ละหัวข้อสามารถกดแทบหัวข้อสีเขียวได้)
เมื่อท่านกรอกข้อมูลรายละเอียดเรียบร้อยแล้วให้ท่านกดปุ่ม ยืนยันการเข้าร่วมโครงการ
เมื่อบันทึกข้อมูลเสร็จสิ้น ระบบจะเข้าสู่หน้าจอแสดงข้อมูลสถานะของใบสมัคร โดยในเบื้องต้นสถานะของ การสมัครเข้าร่วมโครงการของท่านจะเป็น “อยู่ระหว่างดำเนินการ” ในหน้านี้ท่านสามารถ Upload ไฟล์ เอกสารประกอบการสมัคร เช่น สำเนาบัตรประชาชน หลักฐานแสดงรายได้ หรือ เอกสารเครดิตบูโร เป็น ต้น เพื่อส่งให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาได้อีกด้วย เมื่อท่านดำเนินการเสร็จสิ้น ท่าน สามารถ Logout ออกจากระบบได้โดยการกดปุ่ม “Logout” ที่อยู่มุมบนด้านขวามือ เพื่อป้องกันผู้อื่นเข้า มาใช้งาน
กรณีกรอกข้อมูลใบสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วเกิดเหตุการณ์ขัดข้อง จำเป็นต้องปิด Browser โดยที่ยัง ไม่ได้กด ยืนยันการเข้าร่วมโครงการ ระบบจะให้กรอกข้อมูลใหม่ตั้งแต่หน้า Pre Approve เป็นต้นไป โดยเข้า Login ที่หน้าเว็บไซต
35 ผู้ให้บริการทางการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทั้ง บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank) ดังรุปด้านบน
พิเศษระหว่างวันที่ 14 ก.พ. -14 เม.ย. 64 เป็นต้นไป ธนาคารแห่งประเทศไทยมีกำหนดจัดงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล” ในรูปแบบออนไลน์ (Online mediation) ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานศาลยุติธรรม กรมบังคับคดี ธปท. และศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โดยจะ เป็นช่องทางช่วยประชาชนที่มีหนี้บัตรและสินเชื่อส่วนบุคคลแก้ไขปัญหาหนี้สินแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นหนี้ดีที่ยังผ่อนชำระปกติแต่เริ่มขาดสภาพคล่องชั่วคราว หรือเป็นหนี้เสียแล้ว แต่ยังไม่มีการฟ้องหรืออยู่ระหว่างฟ้องดำเนินคดี หรือที่มีคำพิพากษาแล้วลูกค้าโครงการคลินิกแก้หนี้สามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมดังกล่าวสมัครเข้า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” และเข้าร่วมการไกล่เกลี่ยปัญหาที่มีกับเจ้าหนี้ได้อีกทางหนึ่ง…
เนื่องจากในทุกวันนี้ การใช้รถใช้ถนนมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากผู้ใช้รถทุกคนต้องไม่ประมาทและควรระมัดระวังในการขับขี่แล้ว การทำประกันภัยรถนั้นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ท่านเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น ดังนั้นทาง www.moneyguru.co.th ต้องการที่จะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายจากการจ่ายเบี้ยประกันด้วยการ ลดราคาเบี้ยประกันทันที่ 10% รับมือพิษเศรษฐกิจในเวลานี้
ไม่พลาดทุกเรื่องราวข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน กับ LINE @MoneyGuruThailand
บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มาอ้างอิงข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย