ข่าวดีรัฐบาล ลดเงินสมทบผู้ประกันตน เสริมสถาพคล่อง คนละ 460 – 900 บาท 3 เดือน โดยท่านสามารถ เช็คสิทธิประกันสังคมลดเงินสมทบ 900 บาท นาน 3 เดือน ครม. รวมมูลค่า 8,248 ล้านบาท ส่งผลนายจ้างจ่ายเงินสมทบลดลง รวม 7,412 ล้านบาท

สินเชื่อบัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่อเพื่อคนอายุงานน้อย กู้ได้ไว ไม่ต้องค้ำ ผ่อนเท่ากันทุกเดือนรับปีใหม่

สินเชื่อเงินด่วนซิตี้แบงก์ ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องค้ำ สำหรับคนต้องการเงินเที่ยวปีใหม่

เช็คสิทธิประกันสังคมลดเงินสมทบ 900 บาท นาน 3 เดือน

เมื่อเร็วๆนี้ทางด้าน นาง สาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม.อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนและนายจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้

• ลดอัตราเงินสมทบฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 จากเดิมร้อยละ 5 ลดเหลือร้อยละ 3 โดยฝ่ายรัฐบาลจะส่งเงินสมทบอัตราเดิม คือร้อยละ 2.75 ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 จะทำให้ปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม จากเดิมอยู่ที่เดือนละ 432 บาท ให้เหลือเดือนละ 278 บาท โดยมีการกำหนดระยะเวลา 3 เดือน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ไปถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 นี้

• ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 กำหนดให้ รัฐบาล นายจ้างและผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ออกเงินสมทบเข้ากองทุนเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีคลอดบุตร ฝ่ายละร้อยละ 1.05 และทำการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ ในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตน ฝ่ายละร้อยละ 1.85 และรัฐบาลปรับเป็นร้อยละ 1.45 การจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตน ฝ่ายละร้อยละ 0.1 และรัฐบาลปรับเป็นร้อยละ 0.25

• ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 เป็นต้นไป กำหนดให้ทั้ง รัฐบาล นายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ออกเงินสมทบเข้ากองทุนเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีคลอดบุตร ฝ่ายละร้อยละ 1.5 นอกจากนี้การจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ ในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตนฝ่ายละร้อยละ 3 และรัฐบาล ร้อยละ 1 และการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ในส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตน ฝ่ายละร้อยละ 0.5 และรัฐบาลร้อยละ 0.25

สรุป

ปรับลดเงินสมทบประกันสังคม มาตรา 33 จากเดิม 5% เหลือ 3% มีผลนาน 3 เดือน ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 64 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกันตน รวมถึงนายจ้างด้วย โดยภาครัฐยังคงสมทบในอัตราเดิมที่ 2.75%

• อัตราเดิม อยู่ที่ 5% หรือสูงสุด 750 บาท/เดือน
• อัตราใหม่ อยู่ที่ 3% หรือสูงสุด 450 บาท/เดือน

ส่วนผู้ประกันตน มาตรา 39 จะปรับลดลง 154 บาท นาน 3 เดือนเช่นกัน ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 64

• อัตราเดิม : 432 บาท/เดือน
• อัตราใหม่ : 278 บาท/เดือน

จ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร

ข่าวดีเพิ่มเติม ครม. มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร พ.ศ. 2561 โดยมีสาระสำคัญดังนี้

1. เพิ่มอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรเหมาจ่าย จากเดิม 600 บาท/เดือน ต่อบุตร 1 คน เพิ่มเป็น 800 บาทต่อเดือนต่อบุตร 1 คน บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 เป็นต้นไป
2. ผู้ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร ตามกฎกระทรวงฯ ฉบับเดิม (ปี 61) จะยังคงได้รับสิทธิตามอัตราที่กำหนดใหม่ในกฎกระทรวงฉบับนี้ นับตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ

พิเศษสำหรับท่านไหนที่ยังไม่มีบัตรกดเงินสด สามารถเข้ามาดูบัตรกดเงินสดที่เหมาะกับคุณได้ที่นี่ เพราะ MoneyGuru ได้รวบรวมผลิตภัณฑ์ทางการเงินไว้ให้พร้อมสรรพ นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต และประกันรถยนต์ดีๆ มาเปรียบเทียบเพื่อให้ได้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน

พิเศษสำหรับท่านที่กำลังจะออกรถช่วงเวลานี้ MoneyGuru แจกบัตรเติมน้ำมันฟรี สูงสุด 1,500 บาท รับปีใหม่ง่ายๆแค่ซื้อประกันรถยนต์ทางเว็บไซต์ MoneyGuru.co.th เนื่องจากในทุกวันนี้ การใช้รถใช้ถนนมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากผู้ใช้รถทุกคนต้องไม่ประมาทและควรระมัดระวังในการขับขี่แล้ว การทำประกันภัยรถนั้นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ท่านเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น