การ รูดบัตรเครดิตไม่ผ่าน อาจเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนเคยเจอนะคะ นอกจากจะทำให้หงุดหงิดใจและรู้สึกอับอายในบางครั้งเพราะคนขายอาจมองได้ว่าคุณมีเครดิตสกอร์หรือประวัติการใช้หนี้ที่ไม่ดี วันนี้ MoneyGuru จึงจะมาบอกว่าการที่คุณ รูดบัตรเครดิตไม่ผ่าน อาจเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง เพื่อที่จะได้สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์นั้นค่ะ

1. คุณใช้จ่ายในต่างประเทศหรือเปล่า?

การใช้จ่ายในต่างประเทศเช่นการจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศอย่างกะทันหัน หากคุณคิดจะเดินทางไปไหนและซื้อตั๋วเดินทางด้วยบัตรเครดิต คุณควรแจ้งให้ธนาคารทราบเพื่อที่จะได้ไม่ถูกระงับการใช้งาน เพราะธนาคารมักมีการป้องกันการโอนที่น่าสงสัย การจับจ่ายใช้สอยในเว็บไซต์หรือร้านค้าที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศก็อาจถูกระงับการมใช้งานเช่นกัน ทางแก้คือคุณควรโทรศัพท์ไปยืนยันกับทางธนาคารก่อนว่าประสงค์จะใช้บัตรเครดิตชำระเงินในร้านค้าต่างประเทศ

2. การใช้จ่ายของคุณอาจดูน่าสงสัย

โดยปกติแล้วธนาคารมักจะมีมาตรการป้องกันการโกง การซื้อที่น่าสงสัยเช่นการซื้อเครื่องเพชรหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพงอาจทำให้บัตรเครดิตของคุณโดนระงับด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่ไปกระตุ้นให้ทางธนาคารระงับบัตรอาจมาจากการที่พฤติกรรมการใช้เงินของคุณเปลี่ยนไป ธนาคารสูญเสียเงินหลายล้านเพราะโจรขโมยบัตรเครดิตต่อปี พวกเขาจึงต้องมีมาตรการรัดกุม เพราะฉะนั้นก่อนคุณจะตัดสินใจซื้อของแพงี่ปกติแล้วไม่ได้ใช้บัตรเครดิตซื้อ อย่าลืมโทรไปแจ้งทางธนาคารผู้ออกบัตรเสียก่อน

3. คุณถึงเครดิตลิมิต

เครดิตลิมิตเป็นสิ่งที่จำกัดวงเงินของคุณในแต่ละเดือน เมื่อวงเงินเต็มก็เป็นเรื่องปกติที่คุณจะใช้บัตรไม่ได้ หากต้องการใช้บัตรคุณควรนำเงินไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตที่ธนาคาร และเครดิตลิมิตของคุณจะเพิ่มขึ้นภายในวันที่ชำระเงิน คุณไม่จำเป็นต้องรอชำระเงินเมื่อบิลบัตรถูกส่งมาก็ได้

4. คุณกรอกข้อมูลผิด

ในบางครั้งคุณอาจรีบจนพิมพ์เลขบัตรเครดิต ชื่อ-นามสกุลหน้าบัตร หรือรหัสบัตร หากคุณพิมพ์ผิดครั้งเดียวก็อาจแค่รูดบัตรเครดิตไม่ผ่าน แต่หากคุณกรอกข้อมูลซ้ำหลายครั้งทางธนาคารก็อาจระงับบัตรเครดิตได้

5. คุณลืมชำระหนี้บัตรเครดิต

นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บัตรเครดิตของคุณอาจถูกระงับ แต่หากคุณเป็นลูกค้าชั้นดีธนาคารอาจให้เวลาคุณอีกหนึ่งรอบบิลเพื่อชำระเงินก่อนจะระงับบัตรเครดิต ทางที่ดีคุณควรอย่าลืมชำระหนี้บัตรเครดิตให้ตรงเวลาเพื่อประวัติเครดิตที่ดีของตนเอง

6. เครดิตสกอร์ของคุณต่ำลง

ธนาคารผู้ออกบัตรนั้นคอยติดตามประวัติเครดิตของคุณกับทางเครดิตบูโรอยู่เสมอ หากพวกเขาพบว่าคุณมีหนี้สินเพิ่มขึ้น ขาดชำระบัตรเครดิตของธนาคารอื่น หรือไม่สามารถชำระสินเชื่อต่างๆได้ บัตรเครดิตของคุณก็อาจถูกระงับเช่นกันเพราะทางธนาคารจะถือว่าความเสี่ยงในการให้คุณกู้ยืมเงินนั้นมีมากขึ้น

7. บัตรเครดิตหมดอายุ

คุณควรตรวจสอบวันหมดอายุบนหน้าบัตรของตนเองให้ดี ก่อนถึงเวลาที่บัตรเครดิตจะหมดอายุสัก 3 ถึง 6 เดือน คุณควรเริ่มมองหาบัตรใบใหม่ เพราะธนาคารผู้ออกบัตรอาจไม่ต่อสัญญาให้คุณเสมอไป

8. ผู้ถือบัตรร่วมหรือผู้ถือบัตรหลักแจ้งยกเลิกบัตรเครดิตของคุณ

ผู้ถือบัตรร่วมหรือบัตรหลักอาจแจ้งบัตรหาย ทำให้บตรเครดิตทั้งหมดภายใต้บัญชีดังกล่าวถูกระงับ ซึ่งปกติแล้วธนาคารจะส่งบัตรใบใหม่มาให้ในภายหลัง คุณควรคุยกันให้เข้าใจและสื่อสารกับผู้ถือบัตรร่วมหรือบัตรหลักว่าบัตรของคุณถูกระงับหรือไม่

นอกจากนี้ หากคุณกำลังจะทำบัตรเครดิตใหม่ คุณอาจสงสัยว่า VISA vs MasterCard แบบไหนจะดีสำหรับคุณ และเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น สำหรับบัตรประเภทวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด อาจจะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าเมื่อต้องตัดสินใจระหว่างบัตรวีซ่ากับมาสเตอร์การ์ด คนส่วนใหญ่ก็มักจะให้ความสนใจมากขึ้น ว่าธนาคารผู้ออกบัตรจะนำเสนอบัตรเครดิตประเภทไหนให้ หรือบัตรแต่ละประเภทมีสิทธิประโยชน์อย่างไร เช่น Cashback หรือผ่อนชำระ 0% เป็นต้น

อ่านบทความเพิ่มเติม : VISA vs MasterCard คืออะไรและต่างกันอย่างไร?

หากคุณรูดบัตรเครดิตไม่ผ่านก็ไม่ต้องตกใจแล้วนะคะ เพราะคุณก็คงรู้สาเหตุแล้วว่าทำไม ต่อจากนั้นคุณก็ควรหาวิธีแก้ไขไม่ให้มันเกิดปัญหาอีกนะคะ และหากคุณอยากรับข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับรถยนต์ การเงิน สินเชื่อ บัตรเครดิต และประกันรถยนต์ ก็สามารถกด Subscribe เพื่อรับสาระความรู้แบบนี้จาก MoneyGuru.co.th ได้เลยค่ะ เราจะส่งตรงถึงอีเมลของคุณทุก ๆ สัปดาห์