เอาล่ะ สมมุติว่าคุณเพิ่งเจียดเงินจ่ายให้กับรถยนต์ที่ซื้อมาจากเต้นท์รถมือสอง คุณคิดว่า ในเมื่อนี่เป็นรถที่ราคาไม่เท่าไหร่ และคุณก็ใช้ขับแค่จากบ้านไปที่ทำงาน คุณจะจ่ายให้กับค่าใช้จ่ายอะไรก็ตามที่จำเป็นสำหรับรถในราคาที่ต่ำที่สุดเท่านั้น ซึ่งอาจหมายถึงการไม่ลงทุนกับประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ นอกเหนือจากประกันรถยนต์ภาคบังคับเลย

วันนี้ เราจะมาบอกเหตุผลว่าทำไมการมีแค่ประกันรถยนต์ภาคบังคับถึงไม่พอ

ตัวเลขบอกเรื่องจริง

มาเริ่มกันที่สถิติโหดๆ เลยดีกว่า ในปี 2010 จากการบันทึกขององค์การอนามัยโลก (WHO) มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถึง 1.24 ล้านรายทั่วโลก ครึ่งหนึ่งของตัวเลขนี้เป็นผู้ใช้ถนนที่เป็นผู้ใช้จักรยานยนต์ คนปั่นจักรยานและคนเดินถนน ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นความรับผิดชอบของคนขับภายใต้ความคุ้มครองบุคคลที่สาม ซึ่งในประเทศไทยอยู่ใน พ.ร.บ.

ในส่วนของประเทศไทย เมื่อปี 2556 องค์การอนามัยโลกระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุมากเป็นในอันดับที่ 6 ของโลก พูดง่ายๆ คือ ใน 1 เดือน มีคนเจ็บประมาณ 2 แสนคน มีคนเสียชีวิตประมาณ 2 พันคน และล่าสุด นักปั่นจักรยานชาวชิลีที่ปั่นผ่าน 5 ทวีปทั่วโลกก็ถูกรถกระบะชนเสียชีวิตที่ จ. นครราชสีมา ซึ่งสาเหตุมาจากความประมาทของคนขับ!!

การบาดเจ็บทางร่างกาย

การที่คุณจ่ายเงินเบี้ยประกันรถยนต์เพื่อให้มีความรับผิดชอบต่อบุคคลที่สาม (พ.ร.บ.) อย่างเดียว เท่ากับว่าคุณกำลังพลาดความคุ้มครองที่ประกันรถยนต์แบบอื่นสามารถมอบให้ได้ สำหรับอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่อาจเกิดขึ้นได้โดยเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อบุคคลที่สาม การบาดเจ็บอาจมีแค่ถลอกหรือรุนแรงไปถึงความพิการและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ คุณยังต้องนึกถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน การทำกายภาพบำบัดระยะยาวหรือค่าพิธีกรรมทางศาสนาในการจัดงานศพอีกด้วย และที่กล่าวมาคือแค่สมมุติว่าคุณต้องรับผิดชอบบุคคลที่สามที่ได้รับผลกระทบเพียงคนเดียวเท่านั้น หากคนที่ได้รับผลกระทำจากอุบัติเหตุครั้งนั้นมีหลายคนล่ะ?

ในประเทศไทย หากผู้ขับขี่ที่กระทำความผิด พ.ร.บ.จะให้ค่าสินไหมทดแทน(รวมค่าเสียหายเบื้องต้น) กรณีเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพถาวร แก่ผู้ประสบภัยหรือผู้ที่ถูกละเมิด สูงสุดอยู่ที่ 204,000 บาทเท่านั้น ส่วนผู้ที่กระทำความผิด จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นต่อตนเองด้วยตัวเอง

จำไว้ว่า พ.ร.บ. คุ้มครองแค่ความรับผิดชอบต่อบุคคลที่สามเท่านั้น ซึ่งก็มีข้อจำกัดหลายอย่างตามกฎหมาย เนื่องจากไม่มีใครสามารถกำหนดได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นรุนแรงมากน้อยเพียงใด คุณอาจต้องจ่ายเงินจนหมดกระเป๋าสำหรับความเสียหายที่ พ.ร.บ. ไม่ได้คุ้มครอง รวมถึงค่าเสียหายของการเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บของคุณเองหรือครอบครัวคนอื่นที่เกี่ยวข้อง

ค่าซ่อมรถ

สมมุติว่าคุณโชคดี ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ คุณก็ยังต้องเจอภาระค่าซ่อมรถอยู่ดี ถึงแม้จะเป็นการซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ อย่าง กันชนบุบ หรือกระจกร้าว เงินเดือนที่ได้มาก็ต้องหายไปจำนวนพอสมควร แทนที่จะได้เอาไปชำระค่าใช้จ่ายจำเป็นหรือเก็บเป็นเงินออม กลับต้องใช้ไปกับการขัดทำสีลบรอยขีดข่วนที่เกิดขึ้นกับรถ

นอกเหนือจากนั้น ลองนึกถึงค่าซ่อมถ้ารถของคุณพังยับหรือชนพร้อมกับรถหลายๆ คันดูสิ คุณอาจถึงกับต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ โครงรถ หรืออาจต้องประกอบส่วนต่างๆ ของรถขึ้นด้วยชิ้นส่วนใหม่ ยกเว้นแต่จะซื้อรถคันใหม่ไปเลย ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ถือเป็นเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งคุณอาจมีเงินไม่พอเสียด้วยซ้ำ

ทำไมต้องประกันรถยนต์?

การลงทุนซื้อประกันรถยนต์ดีๆ ตอนนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงด้านปัญหาการเงินในอนาคตของคุณได้ และยังช่วยปกป้องคุณจากการล้มละลายหากคุณประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งใหญ่ ข่าวดีคือ คุณจะประหยัดค่าประกันรถยนต์ได้หากรถของคุณเป็นรถมือสอง เพราะเบี้ยประกันรถยนต์มักถูกกว่าเบี้ยประกันของรถใหม่

หากคุณคิดว่าจะใช้รถคันปัจจุบันไปอีกนาน การลงทุนกับประกันรถยนต์ดีๆ ควรมีความสำคัญพอๆ กับค่าใช้จ่ายในบ้านและประกันสุขภาพ คุณอาจเริ่มจากหาข้อมูลเกี่ยวกับความคุ้มครองของประกันชั้น 1 ซึ่งนอกจากจะคุ้มครองอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้ว ยังคุ้มครองเมื่อรถคุณถูกขโมยหรือได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติด้วย

รถของคุณมีประกันรถยนต์หรือยัง?  ถ้ายังไม่มี เข้าไปที่ MoneyGuru.co.th และเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณที่สุด หากคุณสนใจคำแนะนำด้านการเงินเพิ่มเติม เข้าไปได้ที่บล็อกของ MoneyGuru นะครับ