โดย MoneyGuru.co.th, ในหมวดหมู่ "ประกันรถยนต์"
November 21, 2019
เหตุการณ์รถหายนั้นมักจะเกิดขึ้นให้ได้ยินอยู่บ่อยครั้งตามหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ รวมไปถึงตามข่าวในโซเชียลต่างๆ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา เป็นใครก็คงจะต้องเครียด เสียใจ และไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งกรณีรถหายนั้นไม่สามารถระบุวันเวลา และสถานที่ที่จะเกิดขึ้นได้เลยจริงๆ บางวันจอดรถอยู่หน้าบ้านตัวเองดีๆ จู่ๆ จะหายไปซะอย่างงั้น ก็เป็นไปได้ แต่ทีนี้ สำหรับกรณีที่รถหายในสถานที่ที่มีบริการเฝ้าดูแลรถ หรือมีที่จอดรถที่มีทีมรักษาความปลอดภัย หรือยาม อย่างเช่น ในห้างสรรพสินค้าล่ะ ถ้าเกิด รถหายในห้าง ขึ้นมา ประกันรถยนต์จะให้ความช่วยเหลืออะไรได้บ้าง รวมถึงความรับผิดชอบของห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์บริการต่างๆ จะเป็นอย่างไร และใครจะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้จริงๆ วันนี้ MoneyGuru.co.th จึงจะมาพูดคุยถึงเหตุการณ์เหล่านี้กันครับ
ถึงแม้ว่าการจอดรถในห้างซึ่งมีระบบความปลอดภัยที่ค่อนข้างรัดกุม และปลอดภัยอยู่พอสมควร แต่เหตุการณ์รถหายนั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้ครับ ซึ่งหากคุณจอดรถแล้วหายในห้างแบบนี้ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์รถหายนั้น ก็อาจจะต้องดูเป็นกรณีๆ ไปนะครับ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ว่าห้างจะมีการแจกบัตรจอดรถหรือไม่ ทางห้างก็จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นครับ แต่หากรถหายที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อของตัวคุณเอง เช่น ลืมล๊อครถ หรือสืบทราบได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากความประมาทของตัวห้างแห่งนั้นเอง ทางห้างก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นความบกพร่องของเจ้าของรถเองห้างสรรพสินค้าจะไม่รับผิดชอบใดๆ หรือหากสืบได้ว่าการที่คุณนำรถมาจอดในห้างแต่คุณไม่ได้เข้าไปใช้บริการใดๆ เลยจากห้างแห่งนั้น แล้วรถของคุณเกิดหายขึ้นมานั้นทางห้างเองก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้เพื่อไปใช้ต่อสู้ในคดีได้ครับ
ในกรณีที่รถหายนั้น ไม่ว่าจะเกิดที่ไหนก็ตาม แต่หากคุณได้ทำประกันชั้น 1 , 2 และ 2+ เอาไว้นั้น คุณสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทประกันภัยได้เลยครับ ถ้าหากเกิดรถหายที่ห้างจริงๆ ทางบริษัทประกันก็จะชดเชยค่าเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่ตัวคุณเองก่อนตามข้อตกลงตามกรมธรรม์ที่ได้ทำเอาไว้ แล้วค่อยไปเรียกเก็บค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวห้างเองอีกทีนึงนั่นเองครับ
หากรถของคุณหายในห้างแต่คุณดันไม่ได้ทำประกันชั้น 1,2หรือ2+ เอาไว้ คราวนี้คุณก็จะต้องดำเนินเรื่องฟ้องร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับห้างด้วยตัวเองครับ ซึ่งหากห้างเกิดบ่ายเบี่ยงปัดความรับผิดชอบ เรื่องนี้ก็อาจจะจบไม่ง่ายแน่นอน เพราะจะต้องฟ้องร้องทางแพ่ง ซึ่งมันจะทำให้เรา เสียเวลา และอาจจะเสียเงินมากมายไปกับการฟ้องร้อง สุดท้ายก็จะไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลยก็เป็นได้ครับ
หากรถของคุณหายอย่าเพิ่งสติแตกไปนะครับ ตั้งสติให้ดีแล้วทำตามคำแนะนำเหล่านี้ก่อนครับ
แน่นอนครับว่า หากเกิดโจรกรรมเหตุด่วนเหตุร้ายให้แจ้งความก่อนเลยครับ โดยให้แจ้งไปที่สายด่วนรถหาย 1192 เพื่อให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลต่างๆ เอาไว้ จะได้เป็นข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ในท้องที่ต่างๆ สกัดจับได้ ในกรณีที่คาดว่าคนร้ายยังหนีไปได้ไม่ไกล
สิ่งที่ควรทำต่อมาก็คือ แจ้งบริษัทประกันให้ทราบเรื่องโดยเร็วครับ ซึ่งหากคุณทำประกันชั้น 1,2,2+ เอาไว้ก็สามารถโทรแจ้งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้ครับ
หากรถของคุณยังผ่อนไม่หมดแนะนำให้แจ้งกับบริษัทไฟแนนซ์เอาไว้ด้วย เพื่อให้ไฟแนนซ์ติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อที่จะทำเรื่องเคลมประกัน และคำนวนเงินชดเชยต่อไปครับ
เมื่อมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าก็ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ครับ เล่าเรื่องเหตุการณ์ต่างๆ ลงไปในโซเชียลให้ช่วยตามหาเลยครับ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือหรือเป็นการเพิ่มเปอร์เซนต์การตามหารถของคุณคืนได้ดีมากๆ ครับ
เห็นไหมครับว่าทุกๆ ปัญหาย่อมมีทางออก และทางแก้ไขอยู่เสมอ ซึ่งหากคุณตกอยู่ในสถานการณ์เหล่านี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไป และควรตั้งสติให้ดี และทำตามคำแนะนำที่ให้ไว้ครับ และที่สำคัญอย่าลืมทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้นะครับ เพราะประกันภัยรถยนต์นั้นสามารถช่วยเหลือคุณได้มากกว่าที่คุณคิดครับ หากใครที่เริ่มสนใจทำประกันรถยนต์ก็สามารถคลิกเข้ามาได้ที่ เช็คราคาประกันรถยนต์ กันได้เลย กับ MoneyGuru.co.th แล้วคุณจะได้รับการเปรียบเทียบราคาอย่างละเอียดของประกันภัยรถยนต์จากหลายเจ้า ภายใน 1 นาที สะดวก ง่าย รวดเร็ว พร้อมรับใบเสนอราคาได้ฟรีทันที นอกจากนี้ คุณยังสามารถสอบถามเพิ่มเติมผ่านช่องทางใหม่ เพียงแอดไลน์ (LINE) คลิกที่นี่ @MoneyGuruThailand รับรองว่าคุณจะได้คำแนะนำ ราคาเบี้ยประกัน และข้อเสนอที่ดีที่สุดจากผู้เชี่ยวชาญของเราทันที